Digital Elevation Model
แบบจำลองความสูงภูมิประเทศเชิงเลข
แบบจำลองระดับสูงเชิงเลข ได้จากการรังวัดความสูงหรือจุดระดับความสูงที่เป็นตัวแทนของภูมิประเทศ มีการจัดเก็บข้อมูล การประมวลผล และการนำเสนอแบบจำลองในรูปแบบต่างๆ เช่น การสร้างแบบจำลองสามมิติ (3D) แบบจำลองสามมิติเสมือนจริง ซึ่ง DEM มักถูกจัดเก็บในลักษณะของ Raster สามารถสร้างได้จากหลายวิธี แต่ส่วนใหญ่มักใช้วิธีการสำรวจจากระยะไกล หรือวิธีการทางโฟโตแกรมเมตรี แบ่งดังนี้
1. Digital Surface Model (DSM) การจำลองความสูงของภูมิประเทศและจัดเก็บให้อยู่นรูปแบบตำรางกริด หรือข้อมูล แรสเตอร์โดยรวมความสูงของสิ่งปกคลุมพื้นผิวทางกายภาพของโลกด้วย เช่น สิ่งปลูกสร้าง ต้น ไม้ และพุ่มไม้ เป็นต้น
2. Digital Terrain Model (DTM) / Digital Elevation Model (DEM) การจำ ลองความสูงของภูมิประเทศและจัดเก็บให้อยู่ในรูปแบบตารางกริด หรือขข้อมูล แรสเตอร์ โดยมีการกำจัดความสูงของสิ่งปกคลุมพื้นผิวทางกายภาพของโลกออก
การนำข้อมูล Dem มาประยุกต์ใช้งานในด้านต่าง ดังนี้
-
การแยกพารามิเตอร์ภูมิประเทศสำหรับธรณีสัณฐานวิทยา
-
การจำลองการไหลของน้ำสำหรับอุทกวิทยาหรือการเคลื่อนที่ของมวล (เช่นหิมะถล่มและดินถล่ม )
-
การสร้างแบบจำลองความเปียกชื้นของดินด้วย Cartographic Depth to Water Indexes (DTW-index) [22]
-
การสร้างแผนที่บรรเทาทุกข์
-
การแสดงผลของการสร้างภาพ 3 มิติ
-
การวางแผนเที่ยวบิน 3 มิติและTERCOM
-
การสร้างแบบจำลองทางกายภาพ (รวมถึงแผนที่นูนที่ยกขึ้น )
-
การแก้ไขภาพถ่ายทางอากาศหรือภาพถ่ายดาวเทียม
-
การลด (การแก้ไขภูมิประเทศ) ของการวัดแรงโน้มถ่วง ( Gravimetry , geodesy ทางกายภาพ )
-
การวิเคราะห์ภูมิประเทศในธรณีสัณฐานวิทยาและภูมิศาสตร์กายภาพ
-
ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS)
-
การออกแบบทางวิศวกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน
-
การนำทางด้วยดาวเทียม (เช่นGPSและGLONASS )
-
การวิเคราะห์เส้นสายตา
-
การทำแผนที่ฐาน
-
การจำลองการบิน
-
การจำลองรถไฟ
-
เกษตรกรรมแม่นยำและป่าไม้[24]
-
การวิเคราะห์พื้นผิว
-
ระบบขนส่งอัจฉริยะ (ITS)
-
ความปลอดภัยอัตโนมัติ / ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS)
-
โบราณคดี